Toyota bZ4X 2022 ใหม่ เผยโฉมเวอร์ชันจำหน่ายจริงอย่างเป็นทางการแล้ว มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 450 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ
Toyota bZ4X ใหม่ เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในตระกูล bZ ของโตโยต้า ซึ่งย่อมาจากคำว่า “beyond Zero” เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในประเทศจีน, สหรัฐอเมริกา, ยุโรป และญี่ปุ่น โดยโตโยต้ามีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าตระกูล bZ จำนวนกว่า 7 รุ่นภายในปี 2025 นี้
Toyota bZ4X ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยยังคงอาศัยปรัชญาในการพัฒนาแบบ e-TNGA ด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ที่มีความบางเป็นพิเศษไว้ใต้พื้นรถ ส่งผลให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ สามารถกระจายน้ำหนักหน้า-หลังได้อย่างพอเหมาะ รวมถึงออกแบบตัวถังให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ จึงให้การขับขี่ที่มั่นคงและตอบสนองผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
ดีไซน์ภายนอกของ Toyota bZ4X ใช้เอกลักษณ์การออกแบบที่เรียกว่า Hummerhead ด้วยไฟหน้าที่ดูเรียวบาง เชื่อมต่อเข้ากับมุมกันชนที่ดูแข็งแกร่ง มาพร้อมฐานล้อที่มีความยาวเป็นพิเศษ จึงมีห้องโดยสารที่กว้างขวาง สามารถรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 452 ลิตรในขณะยกเบาะหลังขึ้น
นอกจากนี้ แผงคอนโซลของ Toyota bZ4X ยังถูกออกแบบให้มีความบางและติดตั้งอยู่ในระดับต่ำ จึงเพิ่มทัศนวิสัยภายนอกได้เป็นอย่างดี ขณะที่มาตรวัดความเร็วแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ถูกติดตั้งอยู่เหนือพวงมาลัยในระดับสายตา จึงไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนนมากจนเกินไป
ขุมพลังของ Toyota bZ4X ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 265 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม. ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD มีกำลังสูงสุด 217.5 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 336 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เหลือเพียง 7.7 วินาทีเท่านั้น ทั้งยังมีระบบปรับโหมดการขับขี่ XMODE ที่เลือกได้แก่ Snow/Mud, Deep Snow/Mud และ Grip Control ที่เน้นการขับขี่แบบออฟโรดเป็นพิเศษ
ขณะที่แบตเตอรี่ของ bZ4X เป็นแบบลิเธียม-ไอออนขนาด 71.4 kWh ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งคาดว่าจะขับขี่ได้เป็นระยะทางมากกว่า 450 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้งตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จด่วนด้วยระบบไฟแบบ CCS2 กำลังไฟ 150kW จนถึงระดับ 80% ได้ในเวลาราว 30 นาที โดยโตโยต้ายังระบุด้วยว่าแบตเตอรี่ของรถรุ่นนี้ยังถูกเน้นความทนทานเป็นพิเศษ โดยมีค่าการเสื่อมสภาพลงเพียง 10% เมื่อผ่านการใช้งานไปกว่า 10 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร
