เปิดสเปก BMW Z4 (E89) มิถุนายน 16, 2021มิถุนายน 16, 2021AOFบทความข่าวสารเปิดสเปก BMW Z4 (E89) ดีไหม, เปิดสเปก BMW Z4 (E89) รถคันนี้เคยถูกเรียกคืนบ้างรึเปล่า, เปิดสเปก BMW Z4 (E89) ราคา, เปิดสเปก BMW Z4 (E89) เลขไมล์อยู่ที่เท่าไหร่แล้ว, เปิดสเปก BMW Z4 (E89)รถคันนี้เคยชนมารึเปล่า, เปิดสเปก BMW Z4 (E89)รีวิว, เปิดสเปก BMW Z4 (E89)สภาพของรถเป็นอย่างไรบ้าง จากกรณีที่มีรถสปอร์ต BMW Z4 ซิ่งเปิดประทุนฝ่าสายฝนด้วยความเร็วสูงจนประสบอุบัติเหตุกลายเป็นข่าวใหญ่และถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกโซเชียลนั้น เราจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักรถสปอร์ตรุ่นนี้ว่าทำไมจึงกลายเป็นรถที่หลายคนอยากครอบครอง BMW Z4 ถูกพัฒนามาหลายต่อหลายโฉมแล้ว โดยคันที่ปรากฏในคลิปเป็นรหัสตัวถัง E89 (สาวกบีเอ็มฯ มักจะรู้จักรหัสตัวถังเหล่านี้เป็นอย่างดี) ถูกเปิดตัวในตลาดโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2008 ก่อนจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อปี 2009 ก่อนจะกลายเป็นที่นิยมของบรรดาเศรษฐีและวัยรุ่นกระเป๋าหนักในสมัยนั้น ด้วยรูปทรงที่ดูโดดเด่นสมกับความเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ 2 ที่นั่ง พร้อมชุดหลังคาเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าที่ใช้เวลาพับเก็บราว 20 วินาที โดยจำเป็นต้องหยุดรถนิ่งสนิทเท่านั้นจึงจะสามารถเปิด-ปิดหลังคาได้ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผู้เขียนถึงจั่วหัวถึงรถคันนี้ว่าสาวๆ จะต้องเหลียวมอง ไม่ฟังดู Sexist เกินไปหน่อยหรือ? ช้าก่อนครับ… สาเหตุที่รถคันนี้น่าจะถูกใจสาวๆ มากกว่า BMW Z4 รุ่นก่อน ก็เนื่องมาจากมันถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์สุภาพสตรีชื่อว่า Juliane Blasi นั่นเอง ดีไซน์ของรถรุ่นนี้จึงสะท้อนถึงแนวคิดของผู้หญิงที่มีต่อรถสปอร์ตได้เป็นอย่างดี จนสามารถคว้ารางวัลออกแบบยอดเยี่ยม Red Dot Design Award และรางวัลด้านการออกแบบอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนใครที่สงสัยว่าขับรถรุ่นนี้เปิดหลังคาขณะฝนตกไม่เปียกหรืออย่างไร? คำตอบคือ “เปียกแน่นอนครับ” ไม่มีผู้ผลิตรายใดแนะนำให้ขับรถเปิดหลังคาขณะที่ฝนตกเป็นแน่ แต่รถรุ่นนี้ก็ยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่าแผงเบี่ยงลม หรือ Wind Deflector บริเวณหลังพนักพิงศีรษะ ซึ่งวัตถุประสงค์ของอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็เพื่อลดแรงลมไหลเวียนเข้ามายังห้องโดยสารให้น้อยลงในขณะขับขี่ ดังนั้น ในทางทฤษฎีแล้วก็น่าจะช่วยให้น้ำฝนเข้ามายังห้องโดยสารได้น้อยลงเช่นกัน (แต่ยังไงก็เปียกอยู่ดีนั่นแหละ) BMW Z4 รุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในสมัยนั้นเป็นรุ่น sDrive20i M Sport ที่มีชุดแต่งมาให้เสร็จสรรพจากโรงงาน ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตร มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด Steptronic สามารถเปลี่ยนอัตราทดเกียร์เองได้ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ราว 232 กม./ชม. เลยทีเดียว สำหรับราคาจำหน่ายของ BMW Z4 sDrive20i ในสมัยนั้นอยู่ที่ 3,999,000 บาท ก่อนจะถูกแทนที่โดย BMW Z4 รหัสตัวถัง G29 ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ราคามือสองในปัจจุบันป้วนเปี้ยนอยู่ประมาณ 1.8 ล้าน ไปจนถึง 2 ล้านบาทต้นๆ ขึ้นอยู่กับปีและสภาพของแต่ละคัน ที่มา https://www.sanook.com/auto/80316/ Facebook iconFacebookLINE iconLine